“ไทยประกันชีวิต” เดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินงานด้าน ESG
“ไทยประกันชีวิต” พร้อมขับเคลื่อนการดำเนินการด้านความยั่งยืน มุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน” และสอดคล้องตาม Sustainable Development Goals: SDGs ของสหประชาชาติ และแนวทางการเป็นบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายไชย ไชยวรรณ ไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI ในฐานะประธานคณะทำงานฯ ได้มอบนโยบายและทิศทางการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้กับทุกหน่วยงานในไทยประกันชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ Sustainability Day : Cascade & Workshop เพื่อร่วมสร้างกระบวนการดำเนินงานสู่ความยั่งยืนภายใต้ SD Roadmap ของบริษัทฯ เตรียมความพร้อมก้าวสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศ และระดับสากลต่างๆ ในอนาคต
ปัจจุบันธุรกิจโดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ต่างให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยการสร้างความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียบน 3 ด้านหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG : Environment / Social / Governance ซึ่ง “ไทยประกันชีวิต” เป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่ร่วมกับสถาบันไทยพัฒน์จัดทำ “แผนแม่บทความรับผิดชอบต่อสังคม” ตั้งแต่ปี 2551 และปรับปรุงสู่การเป็น “แผนแม่บทด้านการพัฒนาสู่ความยั่งยืน” หรือ SD Master Plan ตั้งแต่ปี 2561 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ดังนั้นเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการด้านความยั่งยืนให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ “มุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน” และสอดคล้องตาม Sustainable Development Goals: SDGs ของสหประชาชาติ รวมถึงตามแนวทางการเป็นบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทฯ จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน หรือ SD Committee ขึ้น โดยหัวใจสำคัญในการดำเนินงานด้าน ESG ของไทยประกันชีวิตที่กำหนดไว้ คือการส่งมอบคุณค่าแห่งความยั่งยืน ให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ประกอบด้วย 6 คุณค่าหลัก คือ
1.ส่งมอบคุณค่าให้ลูกค้า ผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์และการบริการที่สามารถให้คนไทยทุกคนได้เข้าถึงการประกันชีวิต และพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกระดับทุกชุมชนของสังคมไทย
2. ส่งมอบคุณค่าให้กับพนักงานและตัวแทนประกันชีวิตของบริษัทฯ มุ่งมั่นเสริมสร้างบุคลากรให้เป็นทั้งคนเก่งและคนดี และสามารถส่งมอบความรู้ด้านประกันชีวิต ประกันสุขภาพ การวางแผนทางการเงินให้กับชุมชนในสังคม
3.ส่งมอบคุณค่าให้คู่ค้าและพันธมิตร โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการคู่ค้าที่ครอบคลุมประเด็น ESG ในส่วนพันธมิตรให้ความสำคัญเรื่องของธรรมาภิบาล และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อเป็นบริษัทประกันชีวิตที่คู่ค้าและพันธมิตรเลือก
4. ส่งมอบคุณค่าให้ผู้ถือหุ้นหรือนักลงทุน โดยส่งมอบผลตอบแทนการลงทุนที่ยั่งยืน และมีการจัดการบริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุมประเด็น ESG
5. ส่งมอบคุณค่าให้กับหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุม มีการบูรณาการด้านธรรมาภิบาล สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ ให้ความสำคัญเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคและความปลอดภัยของข้อมูล หรือ PDPA
6. ส่งมอบคุณค่าของชีวิต คุณค่าแห่งความรัก และคุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นแก่นของธุรกิจประกันชีวิตให้แก่สังคมไทยและคนไทย โดยบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมให้แก่สังคมไทยและคนไทย
นายไชย กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างความยั่งยืนให้แก่องค์กรและสังคม จะต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันของคนในองค์กร ต้องทำงานในลักษณะ Ecosystem ทั้งมิติของการสร้างคุณค่าให้เกิดกับลูกค้า เกิดกับฝ่ายขาย ผ่านการกำหนดเป้าหมาย การพัฒนาระบบการทำงาน และแผนปฏิบัติการร่วมกัน โดยไทยประกันชีวิตมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อก้าวสู่การเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต การประกันสุขภาพ และการวางแผนทางการเงิน หรือ Life Solutions Provider ไปพร้อม ๆ กับการขับเคลื่อนสังคมให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน