คุ้มครองส่วนต่างมูลค่ารถ เสียหายสิ้นเชิงประกันจ่ายเคลมเต็ม 100%
คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัยฯ พัฒนาแผนประกัน Gap
Insurance คุ้มครองส่วนต่างมูลค่ารถยนต์ตามราคาตลาด
กรณีเสียหายโดยสิ้นเชิง โดยลูกค้าไม่ต้องรับความเสี่ยงเอาไว้เอง
เพียงซื้อความคุ้มครองเพิ่ม บริษัทประกันจ่ายเคลมตามมูลค่ารถเต็ม 100%
ประเดิมด้วยรถป้ายแดงอายุไม่เกิน 2 ปี
นายเสรี กวินรัชตโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “การเงินธนาคาร”ว่าเพื่อเป็นการตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่ต้องการความคุ้มครองรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นบริษัทจึงได้พัฒนาแบบประกัน Gap Insuranceเพื่อเข้ามาคุ้มครองส่วนต่างมูลค่ารถยนต์ตามราคาตลาด ในกรณีที่รถยนต์เกิดความเสียหายโดยสิ้นเชิงภายใต้เงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยรถนต์โดยในช่วงแรกจะรับเฉพาะประกันภัยรถยนต์ป้ายแดง ที่มีอายุรถไม่เกิน 2 ปีก่อน จากนั้นจึงจะขยายไปยังกลุ่มลูกค้าป้ายแดงที่มีอายุรถไม่เกิน 5 ปีต่อไป
โดย GAP Insurance เป็นแผนประกันภัยที่ลูกค้าประกันภัยรถนต์ชั้น
1 สามารถเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมเพื่อคุ้มครองความเสียหายของรถยนต์ในส่วนต่างมูลค่าราคารถยนต์ตามท้องตลาดกับทุนประกันภัยรถยนต์กรณีรถยนต์เสียหายโดยสิ้นเชิงภายในเงื่อนไขกรมธรรม์รถยนต์
เนื่องจากโดยทั่วไปแม้ลูกค้าจะทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
ที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมความเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุในทุกความเสี่ยงอยู่แล้ว
แต่ถ้าเกิดความเสียหายกับรถยนต์แบบสิ้นเชิง (Total loss) ตามเงื่อนไขกรมธรรม์บริษัทประกันภัยจะให้ความคุ้มครองความเสียหายของตัวรถเพียงประมาณ
80% ของมูลค่ารถยนต์เท่านั้น
ส่วนมูลค่าความเสียหายอีก
20%ลูกค้าต้องรับผิดชอบความเสียหายเอาไว้เอง
นายเสรีกล่าวว่า แผนประกัน Gap Insurance
จะเข้ามาช่วยปิดช่องว่างของมูลค่าความเสียหายจริงของตัวรถยนต์กับทุนประกันที่บริษัทจะเข้ามาดูแล
ตัวอย่างเช่น ลูกค้าทำประกันรถยนต์ป้ายแดงมูลค่ารถ 1 ล้านบาท
หากเกิดความเสียหายกับตัวรถแบบสิ้นเชิง บริษัทประกันภัยจะให้ความคุ้มครองรถเพียง
800,000 บาท ส่วนมูลค่าความเสียหายอีก 200,000 บาท
ลูกค้าต้องรับผิดชอบเอาไว้เองดังนั้น หากลูกค้ามีแผนประกัน Gap Insurance โดยยอมจ่ายเบี้ยเพิ่มอีกเพียงเล็กน้อย
นอกจากจะได้รับการชดเชยตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แล้ว
ก็จะได้รับความคุ้มครองจาก Gap Insurance ด้วย
เท่ากับว่าลูกค้าจะได้รับการชดเชยจากบริษัทประกันภัยเต็ม 100%
โดยไม่จำเป็นต้องรับความเสี่ยงภัยจากมูลค่าความเสียหายของรถยนต์เลย
โดยในช่วงแรกบริษัทจะรับประกัน Gap
Insurance สำหรับลูกค้าประกันภัยรถยนต์ป้ายแดง
ที่มีอายุรถไม่เกิน 2 ปีเท่านั้น
เนื่องจากช่องว่างระหว่างมูลค่ารถตามราคาตลาดกับการรับประกันภัยของบริษัทประกันภัยยังมีไม่มากนัก
ลูกค้าสามารถซื้อความคุ้มครองจาก Gap Insurance โดยจ่ายเบี้ยไม่สูงมากนัก
แต่ถ้าเป็นรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 5 ปี ขึ้นไปจะมีช่องว่างระหว่างมูลค่ารถตามราคาตลาดและทุนประกันที่บริษัทประกันภัยกำหนดมาก
หากต้องทำประกัน Gap Insurance เพื่อคุ้มครองความเสียหายของตัวรถ
อาจจะต้องจ่ายเบี้ยประกันที่สูงและไม่คุ้มค่ากับการทำประกันภัยเพิ่ม
ดังนั้น Gap Insurance จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำหรับบริหารความเสี่ยงให้กับผู้ทำประกันภัยรถยนต์ที่ต้องการความคุ้มครองความเสียหายของตัวรถเท่ากับมูลค่าที่แท้จริงตามราคาตลาดโดยไม่ต้องรับความเสี่ยงจากมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเอาไว้เอง
เป็นการโอนมูลค่าความเสียหายไปให้กับบริษัทประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบ
โดยการยอมจ่ายเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม”
“ทั้งนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นที่พัฒนาแบบประกันที่ตอบโจทย์สำหรับลูกค้าประกันภัยรถยนต์อย่างรอบด้าน นอกจาก Gap Insurance แล้ว บริษัทยังได้พัฒนาแบบประกันคุ้มครองสินเชื่อรถยนต์ รวมไปถึงแบบประกันประเภทต่างๆ ที่จะตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าประกันภัยรถยนต์อย่างครบวงจรด้วย”