อัปเกรดประกันสุขภาพรับมือค่ารักษาแพง แนะเริ่มต้นเหมาจ่าย 1 ล้านบาท
โตเกียวมารีนประกันชีวิต-อลิอันซ์
อยุธยาประกันชีวิต แนะนำผู้ถือกรมธรรม์ประกันสุขภาพสำรวจรายละเอียดวงเงิน
ความคุ้มครอง รับมือค่ารักษาแพง หากไม่เพียงพอ จ่ายเบี้ยไหวในระยะยาว
ควรอัปเกรดประกันสุขภาพ แนะวงเงินขั้นต่ำ 1-5 ล้านบาท
จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19
รวมถึงแนวโน้มค่ารักษาพยาบาลที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 10%
ส่งผลให้ผู้ทำประกันสุขภาพอยู่แล้วเริ่มมองหาประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติมจากความคุ้มครองเดิมที่เคยทำไว้
เนื่องจากวงเงินค่ารักษาพยาบาลที่เคยมองว่าจะเพียงพอสำหรับในปัจจุบันและอนาคต
กลับไม่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ขณะที่ผู้ทำประกันมือใหม่ก็มองหาแบบประกัน
ที่จะมาช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่ปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน
ซึ่งประกันสุขภาพเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สามารถเข้ามาช่วยบริหารจัดการค่าใช้จ่ายด้านค่ารักษาพยาบาลในยุคปัจจุบันได้
โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเงินออมที่สะสมไว้ของผู้ทำประกัน
สำรวจวงเงินความคุ้มครอง
ดร.สมโพชน์ เกียรติไกรวัล
ประธานที่ปรึกษาสำนักกรรมการผู้จัดการและสายงานตัวแทน บริษัท
โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำว่า
สำหรับผู้ถือกรมธรรม์ประกันสุขภาพอยู่แล้ว
แต่มองว่าความคุ้มครองเดิมที่เคยทำประกันสุขภาพไว้อาจจะไม่เพียงพอกับค่ารักษาในปัจจุบัน
ที่นวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงบริการพิเศษต่างๆ ด้านการแพทย์
ส่งผลให้ค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้น
ทำให้วงเงินความคุ้มครองเดิมที่เคยทำประกันสุขภาพไม่เพียงพอหากเกิดเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
ดังนั้น
เพื่อให้วงเงินความคุ้มครองด้านสุขภาพสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่าย
ผู้ถือกรมธรรม์ประกันสุขภาพควรสำรวจความคุ้มครอง รวมถึงวงเงินความคุ้มครองเดิมที่มีอยู่
ว่าเพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้หรือไม่ อาทิ ค่าห้อง
ค่ารักษาพยาบาลแบบแยกค่าใช้จ่าย หรือเหมาจ่าย เป็นต้น
หากสำรวจแล้วพบว่าวงเงินที่มีอยู่อาจจะไม่เพียงพอ
และมีกำลังในการชำระเบี้ยประกันสุขภาพได้ ก็ควรซื้อประกันใหม่เพื่อเพิ่มวงเงินและความคุ้มครองให้มากขึ้น
เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทำประกันฉบับใหม่เพิ่มเติม
หรือยกเลิกกรมธรรม์เดิมเพื่อทำกรมธรรม์ฉบับใหม่นั้น คือ เรื่องของอายุ และสุขภาพ
หากทำประกันสุขภาพในช่วงที่อายุมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ
อัตราเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายมากกว่าในช่วงที่อายุน้อย ขณะเดียวกัน
หากสุขภาพไม่สมบูรณ์ เช่น
มีโรคประจำตัวก็อาจจะต้องจ่ายเบี้ยสูงกว่าผู้ทำประกันที่มีสุขภาพดีกว่าในช่วงอายุเดียวกัน
หรืออาจจะไม่ได้รับการพิจารณารับประกันภัยจากบริษัทประกันได้
ดร.สมโพชน์กล่าวว่า
สำหรับผู้ที่ต้องการจะปรับเพิ่มความคุ้มครอง และวงเงินค่ารักษาพยาบาลในยุคปัจจุบัน
สามารถเลือกแบบประกันสุขภาพที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการให้เพียงพอตามกำลังซื้อของแต่ละคนได้
ซึ่งแบบประกันสุขภาพในปัจจุบัน จะให้ความคุ้มครองการรักษาพยาบาลที่ครอบคลุมการรักษาแบบมาตรฐานและเฉพาะทาง
รวมถึงครอบคลุมนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัยด้วย โดยชำระเบี้ยประกันเริ่มต้นหลัก
10,000 บาทต่อปี รับวงเงินคุ้มครองหลักล้านบาทได้
“ผู้ที่ต้องการจะเพิ่มวงเงินความคุ้มครองให้ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล
รวมถึงกลุ่มผู้ทำประกันรายใหม่ที่ต้องการวางแผนค่ารักษาพยาบาล
อย่างน้อยควรจะเริ่มต้นความคุ้มครองที่ 1-3 ล้านบาท
จึงจะสามารถครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลได้มากที่สุด
และกระทบกับเงินออมของตนเองน้อยที่สุดด้วย”
ทั้งนี้
บริษัทได้นำเสนอแบบประกันสุขภาพที่สามารถตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการวางแผนค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพให้ครอบคลุมอย่าง
สัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ โตเกียว กู๊ด เฮลธ์ รับประกันตั้งแต่อายุ 1 เดือน 1
วัน ถึงอายุ 70 ปี สามารถรับประกันต่อได้จนถึงอายุ 84 ปี
ให้ความคุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย
โดยสามารถเลือกค่าห้องเฉลี่ยต่อวัน
2,000-25,000 บาท พร้อมวงเงินความคุ้มครอง 500,000 บาท -120 ล้านบาท
กรณีที่เจ็บป่วยต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลด้วยโรคร้ายแรง 18
โรคตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ จะได้รับวงเงินความคุ้มครองเพิ่มเป็น 2 เท่าทันที
โดยจะมีวงเงินความคุ้มครอง 1 -240 ล้านบาท
พร้อมรับผลประโยชน์เพิ่มเติมในกรณีผู้ป่วยใน
อาทิ ค่าห้องพักในโรงพยาบาลสําหรับบิดาหรือมารดา (เตียงเสริม) สําหรับ
ผู้เอาประกันภัยที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์นับแต่วันที่เข้ารับการรักษา
เป็นผู้ป่วยในครั้งแรก สูงสุดไม่เกิน 30 วัน 2,000-25,000 บาท
ส่วนกรณีที่ไม่ได้เป็นผู้ป่วยใน จะได้รับความคุ้มครองในการตรวจสุขภาพประจำปีหรือค่ารักษาผู้ป่วยนอกหรือการฉีดวัคซีนด้วย
แนะเริ่มต้นเหมาจ่าย 1-5 ล้านบาท
นางสาวนางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารงานลูกค้า บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา
ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) แนะนำว่า สำหรับผู้ที่ต้องการจะเพิ่มวงเงินความคุ้มครองควรจะพิจารณาและศึกษารายละเอียดความคุ้มครองของแบบประกันสุขภาพให้เข้าใจเพราะแบบประกันสุขภาพในปัจจุบัน
ต่างก็มีจุดเด่นหรือจุดด้อยที่แตกต่างกันไปเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้มากที่สุด
สิ่งสำคัญคือ ก่อนจะตัดสินใจว่าจะเพิ่มความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลหรือไม่นั้น
ต้องสำรวจความต้องการของตนเองก่อนว่าต้องการการรักษาแบบไหน
ห้องพักในการรักษาตัวมีความสะดวกมากน้อยเพียงใด ต้องการรักษากับโรงพยาบาลประเภทใด
พบแพทย์ทั่วไป หรือต้องการพบแพทย์เฉพาะทาง รูปแบบการรักษาตามมาตรฐานการรักษาพยาบาลทั่วไป
หรือต้องการรักษาด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย เป็นต้น
จากนั้นเมื่อพิจารณาความต้องการของตนเองแล้วว่าต้องการให้วงเงินความคุ้มครองในรูปแบบใด
แต่สิ่งสำคัญคือ
ต้องอยู่ภายใต้กำลังซื้อของตนเองในการชำระเบี้ยประกันต่อเนื่องได้ในระยะยาว เพื่อรักษาวงเงินความคุ้มครองเอาไว้ได้ตลอดอายุสัญญา
หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
นางสาวพัชรากล่าวว่า
จากแนวโน้มค่ารักษาพยาบาลในปัจจุบัน รวมถึงนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัย
ผู้ทำประกันควรจะมีวงเงินความคุ้มครองเริ่มต้นที่ 1-5 ล้านบาท
เพื่อให้ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล และกระทบต่อเงินออมน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม
แม้จะไม่สามารถเลือกความคุ้มครองหลักล้านบาท แต่ก็ควรจะต้องทำประกันสุขภาพไว้ด้วย
เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล โดยอาจจะเริ่มต้นด้วยวงเงินคุ้มครองหลักแสนบาท
ตามกำลังซื้อของแต่ละคน แต่ถ้ามีกำลังซื้อที่มากเพียงพอในการจ่ายเบี้ยระยะยาว
แนะนำว่าควรมีวงเงินความคุ้มครองขั้นต่ำที่ 1 ล้านบาท
เพื่อลดความกังวลใจเรื่องของค่ารักษาพยาบาล
ขณะเดียวกัน
เพื่อสนับสนุนให้ผู้ที่ต้องการทำประกันสุขภาพแต่มีกำลังซื้อไม่สูงนักสามารถเข้าถึงการทำประกันสุขภาพวงเงินความคุ้มครองสูง
บริษัทจึงได้นำเสนอ ประกันสุขภาพ ปลดล็อก สบายกระเป๋า รับประกันตั้งแต่อายุ 11 ปี
ถึง 69 ปี (ต่อสัญญาได้ถึงอายุ 89 ปี คุ้มครองถึงอายุ 90 ปี)
ให้ความคุ้มครองแบบเหมาจ่ายตามจริง กับค่าเอกซเรย์ ค่าแล็บ ค่ารักษาพยาบาลในการผ่าตัด
ค่าล้างไต ค่าเคมีบำบัด และค่ารังสีรักษาโรคมะเร็ง ค่ารักษาพยาบาลในห้อง ICU และครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลกรณีอุบัติเหตุฉุกเฉิน
ภายใน 24 ชม. วงเงินความคุ้มครอง 1 ล้านบาท จ่ายเบี้ยเริ่มต้นหลักหมื่นบาท