AWARDS • MONEY & BANKING AWARDS

รางวัลเกียรติยศ บริษัทยอดเยี่ยมกลุ่มธุรกิจการเงิน 2565 บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป

บทความโดย:

“ด้วยความมุ่งมั่นในการเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยยึดหลักการบริหารจัดการความเสี่ยง ที่รัดกุม พร้อมรับกับการปรับตัวให้ทัน ต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ตลอดจนการขับเคลื่อนด้วยวัฒนธรรมองค์กรอันแข็งแกร่ง ส่งผลให้ บริษัท ทิสโก้ ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ กลุ่มทิสโก้ ได้รับรางวัล บริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2565 ในกลุ่มธุรกิจการเงิน (Best Public Company - Financials Industry 2022)”

รางวัลเกียรติยศ

บริษัทยอดเยี่ยมกลุ่มธุรกิจการเงิน 2565

Best Public Company Financials Industry 2022

 

ศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป

 

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่มทิสโก้ ได้รับรางวัล บริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี2565 ในกลุ่มธุรกิจการเงิน (Best Public Company - Financials Industry 2022)

 ศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า รางวัลบริษัทยอดเยี่ยม กลุ่มธุรกิจการเงิน ที่จัดโดย “วารสารการเงินธนาคาร” เป็นอีกหนึ่งรางวัลที่นักการเงินหลาย ๆ คนจับตาว่าใครจะสร้างผลประกอบการได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งการพิจารณาของคณะกรรมการตัดสินรางวัลนั้น ได้มองทุกองค์ประกอบอย่างรอบด้าน ไม่ใช่แค่เรื่องขนาดเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงความสามารถในการแสวงหากำไร ผลตอบแทนต่อการลงทุน และสภาพคล่องในการลงทุนการที่ได้รับรางวัลนี้ จึงถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งขององค์กร เพราะวารสารการเงินธนาคารอยู่คู่กับคนไทยมากว่า 40 ปีและยังมีส่วนช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับสังคมในหลายๆ ด้าน


วัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง

สร้างดีเอ็นเอความเป็นมืออาชีพ

ศักดิ์ชัย เล่าต่อว่า หัวใจความสำเร็จที่ทำให้กลุ่มทิสโก้เติบโตอย่างโดดเด่นและยั่งยืน คือการมี “วัฒนธรรมองค์กรที่ดีและแข็งแรง” ทำให้ “คนทิสโก้” มีแนวคิดและเป้าหมายเดียวกัน ทุกคนจึงรู้บทบาทหน้าที่ของตัวเอง และมีความผูกพันกับองค์กรสูงเสมือนหนึ่งเป็นเจ้าของบริษัท (Sense of Entrepreneurship) สิ่งเหล่านี้เป็นดั่งดีเอ็นเอที่ปลูกฝังอยู่ในคนทิสโก้จากรุ่นสู่รุ่น เพราะทิสโก้เชื่อว่าหากพนักงานมีความรักในองค์กรก็จะช่วยกันบริการลูกค้าได้ดีมีความรับผิดชอบ

“ที่ผ่านมา บริษัทในกลุ่มทิสโก้ได้รับการยกย่องเป็น Best Employers ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ ซึ่งรางวัลนี้พนักงานเป็นพลังในการขับเคลื่อนสำคัญ ตอกย้ำความสำเร็จของการเป็นองค์กรแห่งความสุขและมีความคล่องตัวสูง จนได้รับการยกย่องในด้านการมีพนักงานที่รักในองค์กรมากที่สุด และมีความสามารถในการปรับตัวมากที่สุด”

ทิสโก้เป็นองค์กรที่กำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ และลงมือทำงานตามเป้าหมายและกลยุทธ์ที่วางไว้ รวมถึงยึดมั่นในการดำเนินงานอย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending) โดยท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจการเงิน และผลกระทบจากโควิด 19 ทิสโก้เป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่ออกโครงการ “คืนรถจบหนี้” เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบรุนแรง จนไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดต่อไปได้ให้มีทางเลือกในการนำรถมาคืน โดยที่ทิสโก้จะ “ยกหนี้ให้” ตามเงื่อนไขที่กำหนด และไม่ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม

“ลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการนี้จะถูกระบุสถานะเป็นลูกค้า “ปิดบัญชี” เพื่อให้การช่วยเหลือมีความยั่งยืนและทำให้ลูกค้ามีโอกาสตั้งต้นชีวิตใหม่ได้ และโครงการนี้ได้ผ่านกระบวนการพิจารณามาอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเจตนาที่จะ “ไม่ชำระหนี้” (Moral Hazard) ขึ้น”

ผลของการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมนี้ ส่งผลให้ทิสโก้สามารถรักษาระดับคุณภาพลูกหนี้ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยสัดส่วนเอ็นพีแอลอยู่ในระดับต่ำหากเทียบในอุตสาหกรรม รวมทั้งมีทุนสำรองที่แข็งแกร่งเพียงพอต่อการรับมือความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้ลูกค้า ผู้ถือหุ้น นักลงทุนให้ความไว้วางใจ และยืนหยัดเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีการจ่ายเงินปันผลในระดับที่ดี

 

เตรียมพร้อมรับมือเมกะเทรนด์

สร้างโอกาสสู่การเติบโตที่ยั่งยืน

ศักดิ์ชัย เผยอีกว่า ในรอบหลายปีที่ผ่านมา มีหลากปัจจัยรุมเร้าให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรับมือความท้าทาย หากมองในมุมของธุรกิจการเงินมีกระแสใหญ่ ๆ (Megatrends) ที่ต้องติดตามในระยะข้างหน้า คือ การก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ปัจจุบันคนไทยไม่ถึง 30% เท่านั้น ที่มีการวางแผนทางการเงินรับมือวัยเกษียณ ทิสโก้ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านที่ปรึกษาการเงิน (Financial Advisor) จึงมุ่งมั่นเข้าไปช่วยคนไทยวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณอย่างจริงจัง

โดยมีเป้าหมายหลักคือทำให้ลูกค้ามีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตหลังเกษียณได้ตามที่วาดฝัน ภายใต้บริการที่ชื่อว่า “Megatrends Retirement Planning” ครอบคลุมทั้งบริการคัดสรรกองทุนคุณภาพที่เน้นธุรกิจแห่งอนาคต (Megatrends Investment) และการปกป้องความเสี่ยง (Megatrends Protection) ที่สอดรับกับกระแสสำคัญของโลก

ต่อมาคือ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงมาก ถือเป็นวาระแห่งชาติ และเป็นพันธกิจที่ทิสโก้พยายามเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายความรู้ทางการเงินออกไปสู่สังคมในวงกว้าง ผ่านหลากหลายโครงการและกิจกรรม เช่น ค่ายการเงินฉลาดเก็บฉลาดใช้ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการออม การบริหารหนี้ และสร้างวินัยทางการเงิน ที่จะช่วยลดความเปราะบางและความเสี่ยงในภาคการเงินและสังคมในระยะยาว ขณะเดียวกันยังได้พัฒนาแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า Freedom by TISCO PVD  ที่นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกและช่วยวางแผนทางการเงินเพื่อการเกษียณให้แก่สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของทิสโก้แล้วยังมีฟีเจอร์ที่จะช่วยแก้ปัญหาหนี้ให้กับลูกค้าด้วย

“โมเดลที่ต้องการเข้าไปช่วยลูกค้าแก้ปัญหาหนี้นั้น เริ่มมาจากการที่ทิสโก้ต้องการช่วยเหลือพนักงานแก้ไขภาระหนี้สินอย่างยั่งยืน โดยการรวมหนี้หรือ Refinance หนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยแพงมาจ่ายในอัตราที่ถูกลง  ปรากฎว่าได้ผลดีมาก โดยพนักงานมีหนี้ลดน้อยลง  จากนั้นเราจึงขยายบริการไปยังลูกค้าสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของทิสโก้”

อีกด้าน ทิสโก้จะเข้าไปเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้คนไทย ผ่านธุรกิจ “สมหวัง เงินสั่งได้” ที่จะช่วยให้คนเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ไม่สูงมากนัก แต่ก่อนที่จะปล่อยสินเชื่อจะให้ความรู้เกี่ยวกับ “หนี้ดี” และ “หนี้พึงระวัง” แก่ลูกค้าก่อนเพื่อทบทวนตัวเองก่อนตัดสินใจเป็นหนี้ วัตถุประสงค์คือต้องการให้ลูกค้าฟื้นตัวจากปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงรักษาวินัยทางการเงินของตัวเองไว้ได้

โดยในปีนี้ สมหวัง เงินสั่งได้ จะขยายสาขาทั่วประเทศจาก 350 สาขา เพิ่มเป็น 450 สาขาเมกะเทรนด์ที่สำคัญอีกเรื่อง คือ เทคโนโลยี ทิสโก้ไม่ได้วางเป้าหมายในการเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ทางเทคโนโลยี แต่กรอบการนำเทคโนโลยีมาใช้และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ของทิสโก้ คือ เพื่อสร้างรายได้ลดค่าใช้จ่าย และบริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น โดยทิสโก้มีการทำกระบวนการ Design Thinking เพื่อวาดภาพ Customer Journey ดูว่าลูกค้าแต่ละคนมีความต้องการอะไรบ้าง แล้วจะนำความชำนาญของทิสโก้มาตอบโจทย์หรือปิดช่องว่างนั้นได้อย่างไร โดยนำข้อมูลทั้งภายในและภายนอกองค์กรมาวิเคราะห์ เพื่อให้เข้าใจและสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการแก่ลูกค้าได้ตลอดทุกช่วงชีวิต (Lifetime Partner)  

“เราจะสร้างประสบการณ์ใหม่จากการทำ Customer Journey เพื่อดูแลลูกค้าทั้งกลุ่มไปพร้อม ๆ กัน ผ่านการพัฒนาเครื่องมือที่จะเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้า  ยกตัวอย่าง แพลตฟอร์ม “คุ้มคาร์” ที่เป็นมาร์เก็ตเพลสในเรื่องรถอย่างครบวงจร ทั้งการซื้อ ขาย ขอสินเชื่อ และประกันภัย หรือการยกระดับ Mobile Banking ธรรมดามาเป็น TISCO My Wealth ให้มีบริการที่ปรึกษา ซื้อขายกองทุนรวม ด้วยบริการแบบเปิดกว้างที่มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเป็นพันธมิตรมากถึง 13 แห่ง และภายในปลายปีนี้จะต่อยอดไปสู่บริการด้านประกันภัยด้วย เป็นต้น ทั้งหมดเพื่อทำให้ลูกค้าอยู่กับทิสโก้ไปในระยะยาว” 


ตั้งรับความท้าทายเศรษฐกิจ

ด้วยการบริหารความเสี่ยงที่ดี

สำหรับในอนาคตการดำเนินธุรกิจการเงินมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากหลายปัจจัย แม้ขณะนี้จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวจากโควิด 19 ในทิศทางที่ดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังคงเต็มไปด้วยความเปราะบาง

ขณะเดียวกันวิกฤตครั้งใหม่ที่มีจุดกำเนิดจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่รุนแรงและยืดเยื้อยังเข้ามาซ้ำเติม โดยราคาน้ำมันเร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคาสินค้าทั่วโลกพุ่งขึ้นตามมา กระทบกับอัตราเงินเฟ้อและทำให้เกิด Inflation Shock ไปทั่วโลก ทำให้ธนาคารกลางสำคัญ ๆ ทั่วโลกทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ทำให้มีโอกาสที่เศรษฐกิจทั่วโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะข้างหน้า ถือเป็นความเสี่ยงที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ประเทศไทย คาดการณ์จะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน ซึ่งจะกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้และลดทอนกำลังซื้อของประชาชนลง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ผ่อนค่าบ้านจะมีภาระที่เพิ่มขึ้น โดยทุกการปรับขึ้นดอกเบี้ย 1% จะทำให้ค่างวดเพิ่มขึ้น 8% ส่วนในกลุ่มลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อที่คิดดอกเบี้ยคงที่แม้จะไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากนัก แต่ด้วยค่าครองชีพที่สูงขึ้นสวนทางกับรายได้ ดังนั้น การปล่อยสินเชื่อของกลุ่มสถาบันการเงินจึงต้องอยู่ในโหมดของความระมัดระวัง มีแผนรองรับอย่างรัดกุม โดยเฉพาะในสายงานบริหารจัดการหนี้ จะต้องมีความเข้มแข็งและทำงานใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น

“ด้วยสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนสูงในระยะข้างหน้ากลุ่มทิสโก้ยังคงให้ความสำคัญกับการรักษาความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดีเหมาะสมกับความเสี่ยง และยึดมั่นในจรรยาบรรณและมีธรรมาภิบาลที่ดีในการทำธุรกิจอยู่เสมอ” ศักดิ์ชัย กล่าวทิ้งท้าย