รางวัลเกียรติยศ บริษัทยอดเยี่ยม ด้านประกันชีวิต 2565 Best Service Provider Life Insurance 2022 บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต
“การรับรางวัล “บริษัทยอดเยี่ยม ด้านประกันชีวิต 2565” ของบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า บริษัทได้มีทิศทางดำเนินธุรกิจที่ ถูกทางแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้น คือ บริษัทจะต้องรักษามาตรฐาน การบริการที่ดีให้ได้ในระยะยาว เนื่องจาก ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปมากน้อยเพียงใด แต่ Core ของธุรกิจประกันชีวิต คือ “Trust” หรือ “ความเชื่อใจ” ซึ่งเมืองไทยประกันชีวิต ได้รับรางวัลนี้มาติดต่อกันต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว”
รางวัลเกียรติยศ บริษัทยอดเยี่ยม ด้านประกันชีวิต 2565
Best Service Provider Life Insurance 2022
สาระ ล่ำซำ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต
ธุรกิจประกันชีวิต เป็นธุรกิจที่ต้องอาศัย
“ความเชื่อใจ” และ Commitment ในการรักษามาตรฐานการบริการที่ดีเอาไว้ให้ได้ในระยะยาว
เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ามากที่สุด
ซึ่งเป็นเรื่องที่เมืองไทยประกันชีวิตมุ่งเน้นและดำเนินการมาโดยตลอด ส่งผลให้
บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัล บริษัทยอดเยี่ยม
ด้านประกันชีวิต 2565 (Best
Service Provider Life Insurance 2022) โดยในครั้งนี้
ถือเป็นการรับรางวัลติดต่อกันต่อเนื่อง เป็นปีที่ 4 (ปี 2562-2565)
สาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความรู้สึกที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ว่า รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติที่ “วารสารการเงินธนาคาร” ซึ่งเป็นผู้นำคอนเทนต์ด้านเศรษฐกิจการเงิน การลงทุน และได้รับความไว้วางใจจากผู้อ่านเป็นอย่างมากในแวดวงการเงิน ได้มอบรางวัลบริษัทที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านประกันชีวิต 2565 ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและไว้ใจของลูกค้าที่มีต่อการบริการของบริษัท
อย่างแท้จริง เพราะสิ่งสำคัญของบริษัทประกัน
คือ “ความเชื่อใจ” ของลูกค้า
เมื่อมีหน่วยงานภายนอกหรือบุคคลที่สามออกมารับรองให้รางวัลในครั้งนี้
รางวัลนี้จึงเป็นความภาคภูมิใจของบริษัท
และเป็นสิ่งเตือนใจที่ต้องมุ่งมั่นรักษามาตรฐานการบริการที่ยอดเยี่ยมไว้ให้ได้
ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความท้าทายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“เพราะเรื่องของการประกันชีวิตเป็นเรื่อง
“ความเชื่อใจ”
ในระยะยาว ดังนั้น จึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการให้บริการในแง่การให้คำแนะนำที่ดีและเหมาะสมกับลูกค้าด้วย”โดย เมืองไทยประกันชีวิต มุ่งเป็นบริษัทที่ให้คำปรึกษาทางการเงินมาตั้งแต่ต้น ดังนั้น ภายใต้การให้บริการในองค์รวม บริษัท จึงมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของพนักงานและตัวแทนคนขาย เทคโนโลยีที่ใช้รวมถึงเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อกับพันธมิตรทางธุรกิจหรือ Ecosystem เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ามากที่สุด
สาระกล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความท้าทายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค ความไม่แน่นอนของโรคอุบัติใหม่ สถานการณ์สังคมสูงวัยในประเทศไทย ผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผันผวน รวมถึงการออกประกาศเริ่มบังคับใช้กฎหมายใหม่ จำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีคิดเป็นการคิดแบบ Outside inคือ มุ่งการสร้างความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก
ขณะเดียวกัน บริษัท มีการกำหนดกรอบและนโยบายการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมีการวางกระบวนการ แนวทางที่ชัดเจน อาทิ การประกาศใช้นโยบายการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วนของบริษัท รวมถึงมีการกำหนดโครงสร้างการบริหารงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนแนวทางการดำเนินงาน และถ่ายทอดเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG) สู่นโยบายเชิงปฏิบัติที่ชัดเจนให้กับผู้บริหารและพนักงานทุกระดับ เพื่อช่วยให้แผนการดำเนินงานมีความสอดคล้องและเชื่อมโยงเป็นไปในทิศทางเดียวกัน มุ่งเกิดประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างแท้จริง
เปิดกลยุทธ์ “Health 5.0”
คุ้มครองสุขภาพอย่างเท่าเทียม
สาระกล่าวว่า รางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นสิ่งที่แสดงถึงความสำเร็จในการให้บริการของบริษัท รางวัลนี้ยังสะท้อนถึงการกำหนดกลยุทธ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการทุกกลุ่มจากพฤติกรรมของผู้คนในปัจจุบันที่หันมาให้ความสำคัญในเรื่องของการดูแลสุขภาพมากขึ้น รวมถึงการมองหาความคุ้มครองสุขภาพที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง จึงเป็นแนวคิดที่เมืองไทยประกันชีวิตได้พัฒนาความคุ้มครองสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าแบบ Outside In ซึ่งเป็นหัวใจที่บริษัท ให้ความสำคัญมาโดยตลอด และหวังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ชีวิตของทุกคนมีรอยยิ้มได้
ล่าสุด บริษัท มีการประกาศใช้กลยุทธ์ “Health 5.0”
ที่จะมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรมสำหรับความคุ้มครองสุขภาพที่เข้าถึงได้และเท่าเทียมในทุกกลุ่ม
เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ทุกคนดีขึ้น
โดยจะมีการออกแบบประกันที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ และมีความเฉพาะตัว (Personalization) ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย
(Generation) ทุกบทบาทของชีวิตที่ต้องรับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นคนโสด
คนมีครอบครัว วัยทำงาน วัยเกษียณ เจ้าของกิจการ พนักงานออฟฟิศ ฟรีแลนซ์ แม่บ้าน
คนขับรถ พนักงานรักษาความปลอดภัย ที่ไม่ว่าจะเป็นคนตัวเล็ก หรือตัวใหญ่
ไลฟ์สไตล์แบบไหน ก็สามารถเข้าถึงความคุ้มครองจากเมืองไทยประกันชีวิตได้
ชูแอปพลิเคชั่น MTL Click
สะดวก ครบ จบในแอปเดียว
สาระกล่าวว่า เมืองไทยประกันชีวิตพร้อมพัฒนาและผสมผสานรูปแบบของการบริการและเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันMTL Click ที่รวบรวมทุกบริการของเมืองไทยประกันชีวิตสะดวก ครบ จบในแอปเดียว บริการ MTL Mini Click เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ดิจิทัลคนรุ่นใหม่ ให้ทุกการเช็ก เป็นเรื่องง่าย เพียงเพิ่ม @Muangthailife เป็นเพื่อนใน LINE App บริการ MTL Health Buddy ผู้ช่วยสุขภาพครบวงจร สามารถปรึกษาสุขภาพกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ค้นหาแพทย์ที่เหมาะกับโรค การทำนัดหมายติดต่อเข้ารับการรักษา แอปพลิเคชัน MTL Fit ตัวช่วยด้านดูแลสุขภาพสำหรับลูกค้าและผู้ใช้งานทั่วไป ที่จะทำให้คุณได้รู้จักสุขภาพของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น และ “เมืองไทยสไมล์คลับ” ศูนย์รวมกิจกรรมเพื่อความสุขและรอยยิ้ม ที่คัดสรรกิจกรรมรวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ความต้องการของลูกค้า
นอกจากนี้ ยังมีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจในด้านต่างๆ (Ecosystem Partners) ที่เป็นความร่วมมือระหว่างเครือข่ายสถานพยาบาล อีคอมเมิร์ซ และพันธมิตรในกลุ่มสตาร์ตอัพ เพื่อยกระดับและเข้าถึงการให้บริการที่ครอบคลุมตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตมากขึ้น
ประกันสุขภาพวงเงินสูง
รับมือค่ารักษาพยาบาลแพง
สาระกล่าวว่า จากการปรับตัวของค่ารักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นทุกปี หากไม่มีการวางแผนการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายด้านค่ารักษาพยาบาลที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างเพียงพอ อาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินและเงินเก็บที่สะสมมาทั้งชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุค New Normal ที่มีโรคอุบัติใหม่เกิดขึ้นส่งผลให้ผู้คนเริ่มหันมาให้ความสนใจและความสำคัญกับการวางแผนทำประกันที่คุ้มครองเรื่องสุขภาพมากขึ้น
ล่าสุดได้พัฒนาแบบประกันคุ้มครองสุขภาพ Elite Health Plus และ
D Health Plus ที่โดดเด่นด้านการให้ความคุ้มครองสุขภาพแบบเหมาจ่าย
มีวงเงินความคุ้มครองสูง สามารถเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ตามต้องการ เช่น
ตรวจสุขภาพ ทำฟัน ดูแลสายตา หรือคุ้มครองการคลอดบุตร
คุ้มครองทั้งค่าห้องและค่ารักษา ครอบคลุมทั้งโรคร้ายแรง โรคมะเร็ง โรคหัวใจ
โรคทั่วไป โรคระบาด โรคอุบัติใหม่ และอุบัติเหตุ นอกจากนี้กลุ่มอาชีพอิสระ
(ฟรีแลนซ์) รวมถึงกลุ่ม LGBTQ+
ก็สามารถเข้าถึงประกันคุ้มครองสุขภาพนี้ได้
เพราะการพิจารณารับประกันภัยขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละคนเป็นหลัก
เป้าหมายสำคัญก้าวต่อไปของเมืองไทยประกันชีวิต คือ การก้าวไปสู่การเป็น “ผู้นำตลาดด้านนวัตกรรมความคุ้มครองในเรื่องของสุขภาพ (Most Trusted Health Partner)” ซึ่งเป็นเป้าหมายภายใต้แผนการดำเนินงานตามแนวคิด “MTL NEXT TO YOU” เพื่อการพัฒนาที่รอบด้านและก้าวเคียงคู่ดูแลทุกช่วงของชีวิตของลูกค้าได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย